เทคโนโลยี 5G หรือ Generation 5 เป็นระบบ Network ที่สามารถรองรับการเชื่อมต่อได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น ที่ไม่ใช่เพียงแค่มือถือ แต่เป็นอุปกรณ์ทุกชนิด ทำให้ในหลายอุตสาหกรรมเล็งเห็นถึงข้อสำคัญในจุดนี้ และได้พัฒนาบริการ 5G Private Network ให้มีประสิทธิภาพในการปกป้องข้อมูลธุรกิจสำหรับองค์กรมากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่นำไปสู่การปลดล็อกอุตสาหกรรมในช่วงที่ประเทศกำลังฟื้นตัว วันนี้จะพาไปทำความรู้จักกับบริการเทคโนโลยี 5G Private Network และโซลูชัน 5G IoT ว่าแต่ละรูปแบบที่ว่ามีความสำคัญอย่างไรกับอุตสาหกรรมไทย
ทำความรู้จักกับบริการ 5G Private Network
ข้อมูล เป็นทรัพยากรที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในรูปแบบองค์กรที่ทำธุรกิจ ซึ่งในปัจจุบันกลุ่มอุตสาหกรรมในประเทศไทยเริ่มขยับขยายแบรนด์ให้ก้าวหน้าสู่การใช้เทคโนโลยีกันมากขึ้น โดยเฉพาะเทคโนโลยี 5G ซึ่งส่งผลให้หลายองค์กรปรับเปลี่ยนการทำงานให้อยู่ในระบบออนไลน์กันมากขึ้น เช่น การรับส่งข้อมูลต่าง ๆ ทั้งในและนอกบริษัท การเชื่อมต่อการทำงานนอกสถานที่ การใช้งาน IoT แอปพลิเคชัน นวัตกรรมการเชื่อมต่ออุปกรณ์ หรือการใช้เทคโนโลยีสำหรับควบคุมการทำงานของเครื่องจักรหรืออุปกรณ์มากขึ้น เป็นต้น ซึ่งสิ่งสำคัญที่ควรให้ความใส่ใจคือ เรื่องของการสื่อสารทั้งภายในและภายนอกองค์กร การคำนึงถึงความปลอดภัยของข้อมูลขั้นสูงสุด รวมถึงประสิทธิภาพการทำงานรูปแบบใหม่ที่แต่ละองค์กรกำหนดขึ้นเพื่อให้พร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลง
จะเห็นได้ว่า “ข้อมูล” เป็นสิ่งที่เริ่มมีบทบาทสำคัญมากขึ้น ดังนั้นบริการ 5G Private Network เปรียบเสมือนเครือข่ายส่วนตัว ทำหน้าที่สำคัญในการสอดส่องการรับส่งข้อมูลต่าง ๆ โดยเฉพาะการใช้งาน IoT สำหรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในอุปกรณ์ให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว มีความเสถียรและปกป้องข้อมูลให้มีความปลอดภัยอย่างสูงสุด
รู้จักโซลูชัน 5G IoT ใน 3 กลุ่มอุตสาหกรรมสำคัญ
บริการ 5G Private Network เล็งเห็นถึงความสำคัญของการใช้เทคโนโลยี ในกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ ของไทยจึงพัฒนาโซลูชัน 5G IoT ใน 3 กลุ่มอุตสาหกรรมสำคัญที่มีแนวโน้มใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ตมากขึ้น โดยเน้นไปที่การป้องกันการเชื่อมต่อเครือข่ายจากภายนอก ที่มีความเสี่ยงต่อการโจมตีจากผู้ไม่หวังดีหรือแฮ็กเกอร์ หรือบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตและบุกรุกเครือข่ายเข้ามาเพื่อต้องการเข้าถึงข้อมูลหรืออุปกรณ์ IoT ในองค์กรก็ตาม ซึ่งโซลูชันเหล่านี้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลขั้นสูงสุด การออกคำสั่งการทำงานทั้งต่อพนักงานและเครื่องจักร ฯลฯ ประกอบไปด้วย
- Smart Factory : เป็นโซลูชันที่เน้นการพัฒนาในระดับโรงงานและกระบวนการผลิต โดยมีระบบรองรับ Big Data เพื่อเก็บข้อมูล วิเคราะห์ และมอนิเตอร์ข้อมูลของเครื่องจักรในโรงงานแบบเรียลไทม์ โดยสามารถรีโมตการทำงานได้จากระยะไกล สามารถช่วยลดข้อผิดพลาดในการทำงานและช่วยลดต้นทุนการผลิตได้เป็นอย่างดี
- Smart Logistics : เป็นโซลูชันระบบโลจิสติกส์อัจฉริยะที่สามารถตรวจสอบคลังสินค้าได้แบบออนไลน์ เช่น การวัดอุณหภูมิ ความชื้น หรือน้ำรั่ว ที่เกิดขึ้นในคลังสินค้าได้ พร้อมทั้งสามารถติดตามสถานะการขนส่งและตรวจนับจำนวนสินค้า ด้วยการรายงานข้อมูลแบบเรียลไทม์ มีความแม่นยำ เพื่อคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้าที่ดียิ่งขึ้น
- Smart Utilities : เป็นโซลูชันที่พัฒนามาเพื่อบริหารจัดการระบบสาธารณูปโภคที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติในประเทศ ทั้งระบบน้ำและไฟฟ้าในเขตอุตสาหกรรม เพื่อตรวจสอบเรื่องของคุณภาพและปริมาณที่เหมาะสม พร้อมเก็บข้อมูลเหล่านี้ไปวิเคราะห์และพัฒนาต่อได้ง่ายขึ้น
จะเห็นได้ว่า ดิจิทัล เข้ามามีบทบาทและเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับและเน้นไปที่การบูรณาการเทคโนโลยีกับทุกกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมสำคัญ (Digital Transformation) ไม่ว่าจะเป็นการใช้เทคโนโลยี
- Massive IoT หรือ การเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT จำนวนมากซึ่งมีความหนาแน่นต่อพื้นที่มากขึ้นกว่า 1 ล้านอุปกรณ์ต่อตารางกิโลเมตรผ่านเครือข่าย 5G และมีระยะการสื่อสารที่ไกลขึ้น
- Artificial Intelligence (AI) หรือ ปัญญาประดิษฐ์ ที่ทำให้เครื่องจักร (machine) มีฟังก์ชันความสามารถในการทำความเข้าใจ เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ เช่น การรับรู้ การให้เหตุผล การวิเคราะห์ และนำไปสู่การแก้ปัญหาต่าง ๆ
- Machine Learning (ML) หรือ ส่วนการเรียนรู้ของเครื่องจักร เป็นเสมือนสมองของ AI ยิ่งคนป้อนข้อมูลเข้าไปมากเท่าไหร่ ML ยิ่งมีข้อมูลในการวิเคราะห์ได้แม่นยำมากขึ้นเท่านั้น เช่นการป้อนใบหน้าคนกว่า 5 ล้านใบหน้า เพื่อให้ ML ของเทคโนโลยี Face recognition ตรวจสอบยืนยันใบหน้าได้ถูกต้องยิ่งขึ้น
- Augmented Reality (AR) หรือ การฉายภาพวัตถุจำลองโดยมีฉากหลังเป็นบรรยากาศจริงผ่านอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ หรือแท็ปเล็ต เพื่อเปิดประสบการณ์พิเศษให้เห็นภาพจำลองนั้นอย่างใกล้ชิด ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่นิยมใช้ในนิทรรศการ พิพิธภัณฑ์ หรือแม้แต่อุตสาหกรรมแฟชั่น เช่น คุณสามารถใช้มือถือส่องวัตถุลูกโลก แล้วในมือถือจะฉายภาพชั้นบรรยากาศ และดาวเทียมของไทยที่ลอยอยู่ตามตำแหน่งต่าง ๆ เป็นต้น
- Virtual Reality (VR) หรือ การจำลองสภาพแวดล้อมเสมือนจริง โดยผู้ชมต้องสวมแว่น VR เพื่อให้เหมือนเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของบรรยากาศนั้น ๆ สามารถรับรู้ มองเห็น ฟังเสียง สัมผัส แม้กระทั้งกลิ่น ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ เกม VR
จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีเหล่านี้ ล้วนเปิดประสบการณ์ใหม่ที่พิเศษให้แก่ผู้สนใจ และมีแนวโน้มกำลังจะค่อย ๆ ก้าวเป็นเทคโนโลยีหลักในอนาคต อุตสาหกรรมธุรกิจต่าง ๆ จึงต้องรีบเข้าถึงโอกาสการพัฒนาและยกระดับธุรกิจให้ไปในทิศทางที่ก้าวกระโดดยิ่งขึ้น เพื่อรับมือกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่จะเพิ่มขึ้น หลังตลาดภายในประเทศเริ่มฟื้นตัวจากการเปิดประเทศอีกด้วย
เครื่องมือสำคัญในเทคโนโลยี 5G IoT
จะเห็นได้ว่าหลายบริษัทขนาดใหญ่ได้เริ่มมีการนำร่องปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานให้เข้าสู่ยุคดิจิทัลกันมากขึ้น ทำให้หลายองค์กรเริ่มมีการพัฒนาทีมไอที หรือ ทีม Tech ด้วยการนำเครื่องมือนวัตกรรมใหม่ ๆ รวมถึงโซลูชันรูปแบบใหม่เข้ามาใช้งานมากขึ้น พร้อมเลือกใช้เครือข่ายที่มีความปลอดภัยสูง และเครือข่ายผสานกับการประมวลผลเอดจ์ คอมพิวติ้ง ที่สามารถออกแบบขนาดได้ตรงกับการใช้งานในองค์กร
บริการ dtac 5G Private Network จึงได้พัฒนาโซลูชันใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับการใช้ประโยชน์อย่างเต็มศักยภาพของเทคโนโลยี Massive IoT, Artificial Intelligence (AI), Machine Learning (ML), Augmented Reality (AR), Virtual Reality (VR) และการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด
บริการ dtac 5G Private Network
dtac business เล็งเห็นถึงความสำคัญของการนำเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในการทำงานของยุคดิจิทัล และพร้อมสนับสนุนในอุตสาหกรรมทุกรูปแบบ จึงพัฒนาบริการ dtac 5G Private Network ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการบริหารจัดการข้อมูลภายในองค์กรให้เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีความเสถียรมากกว่าเดิม พร้อมดูแลด้านความปลอดภัยของข้อมูลด้วยมาตรฐานระดับโลก หากคุณสนใจเทคโนโลยี 5G Private Network และโซลูชัน IoT Cloud Platform สำหรับองค์กร สามารถติดต่อได้ที่ dtac business Customer Center โทร. 1431 กด 2 ทีมงานของเราพร้อมให้คำปรึกษาและแนะนำโซลูชันที่เหมาะสมกับองค์กรของคุณ
ติดตามข่าวสารจาก dtac business ได้ตามลิงก์ด้านล่าง
- Facebook : dtac business
- YouTube Channel: dtac
