6 เคล็ดลับใช้บริการ SMS Marketing แบบเห็นผล ดูไม่เหมือน Spam
การใช้บริการส่ง SMS สำหรับทำการตลาด หรือ ที่เรียกว่า บริการ SMS Marketing เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทางการตลาดประสิทธิภาพสูงที่ธุรกิจทุกระดับเลือกใช้ โดยการทำ SMS Marketing ไม่เพียงแต่จะเข้าถึงลูกค้าได้หลากหลายกลุ่มในเวลาเดียวกันเท่านั้น แต่ยังเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดเฉพาะบุคคล (Personalized Marketing) ที่ช่วยให้ธุรกิจสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าได้ไม่แพ้การทำคอนเทนต์บนโลกโซเชียลมีเดีย
อย่างไรก็ดี ด้วยโลกที่มีการพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง หลายครั้งการใช้บริการ SMS Marketing ที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้ SMS ดูเหมือนสแปม (Spam) จนทำให้ลูกค้าไม่เปิดอ่าน SMS หรือลบข้อความทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย ดังนั้น หากธุรกิจไหนไม่อยากเสียโอกาสในส่วนนี้ไป มาดู 6 เคล็ดลับการส่ง SMS คุณภาพสูงให้ดูไม่เหมือน Spam ที่นำมาฝากในวันนี้กัน
1. สร้างความน่าเชื่อถือเป็นอันดับแรก
แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบข้อความและเงื่อนไขการจัดส่งไปตามยุคสมัย แต่การส่ง Spam ก็ยังคงมีจุดประสงค์ในการหลอกลวงผู้รับสาร ซึ่งในหลาย ๆ ครั้ง ผู้ส่ง Spam ได้พยายามสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตนเองโดยการสวมรอยเป็นธุรกิจชื่อดังมากมาย ตลอดจนใช้ภาษาที่กำกวมเพื่อกระตุ้นความสนใจให้ผู้รับสาร จนหลายคนเองก็ตกเป็นเหยื่อของ Spam เหล่านี้โดยไม่ทันตั้งตัว
ด้วยเหตุนี้ ผู้รับสารส่วนใหญ่ในปัจจุบันนี้ จึงเลือกป้องกันตัวเองจาก Spam ด้วยการปิดรับการแจ้งเตือนและตั้งค่า SMS จากคนแปลกหน้าให้ไปอยู่ใน Junk Box แทน ทำให้หลายธุรกิจเสียโอกาสในการเพิ่มยอดขาย หรือเข้าถึงลูกค้าไปอย่างน่าเสียดาย
อย่างไรก็ดี ถึงหลายคนจะมีการปิดรับ SMS มากขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าธุรกิจจะไม่สามารถใช้บริการ SMS Marketing เพื่อเพิ่มโอกาสธุรกิจได้ โดยธุรกิจสามารถสร้างความน่าเชื่อถือให้ SMS ของตัวเองได้ง่าย ๆ ตามขั้นตอน ดังนี้
- ระบุตัวตนให้ชัดเจน โดยการตั้งค่าชื่อผู้ส่งและจุดประสงค์ในการส่ง SMS ให้ชัดเจน
- ระบุชื่อผู้รับให้ครบถ้วน เพื่อสื่อถึงการทำข้อความเฉพาะบุคคล
- เขียนสิ่งที่ต้องการจะสื่อให้ชัดเจน เช่น ระบุรายละเอียดโปรโมชันให้ชัดเจน พร้อมกำหนดวันและเวลาที่เข้าร่วม ตลอดจนมีการแนบข้อมูลการติดต่อกลับที่ชัดเจน ทำให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบโปรโมชันและความน่าเชื่อถือของธุรกิจได้ด้วยตัวเอง
- ตรวจสอบการสะกดคำให้ถูกต้องและเลือกใช้คำที่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น ไม่ใช้คำว่าพนัน หรือคำที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ตลอดจนไม่ควรใช้ภาษาอังกฤษแทนตัวหนังสือภาษาไทย เพื่อเพิ่มการมองเห็น หรือลดการจับผิดของอัลกอริทึม
2. อย่าลืมกำหนดข้อความให้เหมาะสมกับการแสดงผลของโทรศัพท์
นอกจากจะสร้างความน่าเชื่อถือแล้ว ธุรกิจที่ต้องการใช้บริการส่ง SMS ยังควรศึกษาถึงการแสดงผลบนหน้าจอของโทรศัพท์รุ่นต่าง ๆ ร่วมด้วย ทั้งนี้เพื่อเรียกความสนใจให้ลูกค้าเปิด SMS มาอ่านก่อนเป็นอันดับแรก
โดยธุรกิจอาจเริ่มต้นจากการเขียน SMS ที่สามารถดึงความสนใจให้แก่ลูกค้าได้ตั้งแต่บรรทัดแรก หรือ 60 ตัวอักษรแรกก่อน จากนั้นจึงพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในระบบแสดงผล เช่น บางคนมีการตั้งค่าตัวหนังสือใหญ่ ทำให้เห็นข้อความบางส่วน ในขณะที่หลายคนตั้งค่าตัวหนังสือเล็กในโทรศัพท์เล็ก ทำให้เห็นข้อความทันทีโดยที่ไม่ต้องเปิดอ่าน
นอกจากนี้ ธุรกิจยังควรวางแผนหาทางส่ง SMS คุณภาพสูงให้แก่เจ้าของโทรศัพท์ที่การตั้งค่าปิดแจ้งเตือนข้อความ หรือตั้งค่าไม่ให้ Show Preview เมื่อมีการล็อกหน้าจอโทรศัพท์ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้ามากขึ้นอีกด้วย
3. ใช้ลิงก์เท่าที่จำเป็น
บริการส่ง SMS สำหรับทำการตลาดส่วนใหญ่จะมีการแนบลิงก์เพื่อให้ลูกค้าเข้าไปพิจารณาโปรโมชัน หรือรายละเอียดอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วยตัวเอง อย่างไรก็ดี หากธุรกิจสร้างระบบรักษาความปลอดภัยให้กับลิงก์ไม่ดีพอ โอกาสที่มิจฉาชีพจะเข้ามาสร้าง Spam ซ้อนกันภายในลิงก์ก็มีมากเช่นกัน
ดังนั้น ธุรกิจควรเขียน SMS ที่ครอบคลุมทุกรายละเอียดเพื่อลดการใช้งานลิงก์ หรือหากมีความจำเป็นต้องใช้ลิงก์ ขอแนะนำให้สร้างลิงก์ที่เป็นเว็บไซต์ของธุรกิจโดยตรง เช่น https://ชื่อธุรกิจ.co.th/ตามด้วยชื่อแคมเปญ ควรหลีกเลี่ยงการใช้โฮสต์ลิงก์ เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและลดความเสี่ยงที่มิจฉาชีพอาจแฮ็กเข้ามาสร้างความเสียหายได้
4. กำหนดเวลาส่ง SMS ให้เหมาะสม
การกำหนดเวลาส่ง SMS ไม่เพียงแต่จะเพิ่มความสะดวกให้กับธุรกิจในการวางแผนการตลาดระยะยาวเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงโปรโมชันพิเศษในช่วงเวลาต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเทศกาล วันสำคัญ วันเกิด ไปจนถึงช่วงวันหยุดพิเศษมากมาย ซึ่งหากใช้ผู้ให้บริการส่ง SMS ที่มีมาตรฐานก็จะสามารถระบุช่วงวางแผนการส่ง SMS ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ การกำหนดเวลาส่ง SMS ในช่วงเวลาที่เหมาะสม เช่น เวลาทำการในไทย หรือช่วงเวลากลางวัน แทนที่จะเป็นช่วงดึก หรือเที่ยงคืน ยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้แก่ลูกค้าอีกด้วย เพราะลองคิดดูง่าย ๆ หากได้รับ SMS ในช่วงเวลาตี 1 ลูกค้าหลายคนก็อาจเข้าใจว่าเป็น Spam จากต่างประเทศได้เช่นกัน
5. ตั้งค่า Opt-out ตามความสมัครใจของลูกค้า
การใช้บริการ SMS Marketing ที่ดี คือ การใช้บริการโดยไม่สร้างความเดือดร้อน หรือความรำคาญใจให้แก่ลูกค้า ดังนั้น ธุรกิจจึงควรตั้งค่าระบบ Opt-out ให้ลูกค้าสามารถเลือกปฏิเสธการรับข้อความได้ตามสมัครใจ ตลอดจนมีการแนะนำวิธีการเลิกรับข้อความ หรือ Unsubscribe โดยอาจจะรวมเป็น SMS เดียวกัน หรือ แยกส่งก็ได้เช่นกัน ทั้งนี้เพื่อไม่เป็นการสร้างความรำคาญให้แก่ลูกค้า และลดค่าใช้จ่ายการส่ง SMS ที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมาย รวมถึงเป็นการปฏิบัติตามพ.ร.บ. คอมพิวเตอร์
หากยังนึกภาพไม่ออก ลองมาดูการเขียน SMS ที่มี Opt-out ตามตัวอย่าง ดังนี้
- สินค้าลด 50% เฉพาะวันนี้ สอบถามโปรโมชันเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 1111 หรือหากไม่ต้องการรับข้อความเช่นนี้ให้ส่งหมายเลข 2222 กลับเข้ามาใน SMS
- โปรโมชันสำหรับคุณ A รับสิทธิพิเศษโทรฟรี 24 ชั่วโมงและอินเทอร์เน็ตไม่จำกัด หากพอใจในแพ็กเกจเดิมอยู่แล้ว หรือไม่ต้องการรับโปรโมชันใด ๆ อีก โทร. 1111 เพื่อยกเลิกการรับ SMS
6. ใช้ AI Writing เท่าที่จำเป็น
แม้จะเพิ่มความสะดวกให้ธุรกิจในหลายด้าน แต่การใช้ AI Writing ทั้งจาก ChatGPT และเครื่องมือต่าง ๆ ทำให้ข้อความใน SMS ดูไม่เหมือนภาษามนุษย์ มีการเลือกใช้คำที่ซ้ำไปซ้ำมา ทั้งยังอาจมีการสะกดผิดได้ ซึ่งไม่เพียงแต่จะทำให้ธุรกิจดูไม่สร้างสรรค์แล้ว ลูกค้าเองก็อาจไม่ประทับใจ หรือคิดว่าข้อความใน SMS เป็น Spam ได้เช่นกัน
ดังนั้น ขอแนะนำให้ลองเขียน SMS ด้วยตัวเองดูก่อน เพื่อเป็นการสร้างตัวตนของแบรนด์และใส่ความคิดสร้างสรรค์เฉพาะบุคคลเข้าไป ทั้งนี้เพื่อช่วยให้แบรนด์เติบโตได้อย่างยั่งยืนและสามารถครองใจลูกค้าได้ในระยะยาว หรือหากมีความจำเป็นต้องใช้ AI Writing ก็ควรจะเลือกเก็บเป็นไอเดียและนำมาต่อยอดให้เข้ากับธุรกิจตัวเองมากที่สุดแทน
เพียงเท่านี้ ธุรกิจก็สามารถใช้บริการ SMS Marketing ที่ตอบโจทย์ เห็นผลลัพธ์ ทั้งยังดูไม่เหมือน Spam ทำให้โอกาสในการเข้าถึงและสร้างยอดขายกับลูกค้าที่มีอยู่เดิมและเพิ่มเติมลูกค้าใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว
เมื่อรู้จักทั้ง 6 เคล็ดลับเป็นที่เรียบร้อย ทีนี้ก็ถึงเวลานำมาประยุกต์ใช้จริงเพื่อสร้างผลลัพธ์กัน มาเปิดโอกาสในการรักษาฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายให้มากขึ้นด้วยบริการส่ง SMS สำหรับทำการตลาดจาก dtac business ที่รองรับการประยุกต์ใช้ทั้ง 6 เคล็ดลับข้างต้น ทั้งยังเสริมความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจอีกขั้นด้วยระบบหลังบ้านที่ใช้งานง่ายและมีการใส่ Signature เฉพาะธุรกิจ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 1431
ติดตามข่าวสารจาก dtac business ได้ตามลิงก์ด้านล่าง
Facebook : dtac businessYouTube Channel: dtac